เนื้อหมู ถือเป็นวัตถุดิบหลักที่ครอบครัวนำมาประกอบอาหาร ทั้งเมนูทอด ตุ๋น ปิ้งย่าง หรือต้ม แต่ความอร่อยของอาหารก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ หากซื้อเนื้อไม่ดีมา แม้เชฟเก่งแค่ไหนก็อาจช่วยไม่ไหว อย่างไรก็ตาม จากบทความจากเว็บไซต์ต่างประเทศ SOHA ได้เตือนถึงเนื้อหมู 4 แบบ ที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากมีข้อเสียเยอะ เสี่ยงต่อการเป็นโรคโดยไม่รู้ตัว ประกอบไปด้วย
1. เนื้อหมูจากแม่หมูแก่
เนื้อหมูประเภทนี้มาจากแม่หมูที่ผ่านการให้ลูกหลายครั้งแล้ว มีลักษณะเนื้อแห้ง แข็ง มีกลิ่นเหม็นและรสชาติไม่อร่อยเท่าเนื้อหมูปกติ บางตัวอาจถูกใช้ยาเร่งโตหรือยาฮอร์โมน ทำให้คุณภาพเนื้อไม่น่าไว้ใจควรหลีกเลี่ยงไม่ว่าราคาจะถูกแค่ไหน เพราะคุณภาพและความปลอดภัยต่ำมาก
วิธีสังเกต คือ
– ผิวหนังหนา หลวม มีรูขุมขนกว้าง สีซีดขาว
– เนื้อแดงเข้มคล้ายเนื้อวัว เส้นใยใหญ่และแข็ง
– ไขมันมีสีเหลืองซีดหรือน้ำตาลอ่อน ไม่ติดกับผิวหนังแน่น
– มีกลิ่นแรงจนรบกวนความรู้สึก
2. เนื้อหมูไม่มีความยืดหยุ่น
เนื้อหมูสดจะต้องมีความยืดหยุ่น เมื่อกดลงไปแล้วเนื้อจะคืนตัวทันที แต่ถ้าเนื้อนิ่มเละ กดแล้วไม่คืนรูป หรือมีเมือกเหนียวบนผิวเนื้อ แสดงว่าเนื้อเริ่มเน่าเสีย วิธีตรวจสอบง่ายๆ กดเนื้อด้วยปลายนิ้ว หากรอยบุ๋มไม่คืนตัว อย่าซื้อเด็ดขาด หรืออีกวิธีคือลองสัมผัสเนื้อ หากพบว่าลื่นหรือมีเมือก อาจเป็นเนื้อที่เริ่มเน่า
3. เนื้อหมูมีน้ำเยอะผิดปกติ
ถ้าเนื้อหมูเปียกโชก มีน้ำไหลออกมา หรือรู้สึกแฉะชุ่มเมื่อสัมผัส ควรระวังเพราะอาจเป็นเนื้อที่ฉีดน้ำเพื่อเพิ่มน้ำหนัก เนื้อประเภทนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้รสชาติของอาหารลดลงเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะอีกด้วย
เคล็ดลับการเลือกเนื้อสัตว์ง่ายๆ คือ
– เนื้อควรจะมีความชื้นพอเหมาะ ไม่แฉะเกินไป
– เวลาตัดถ้าเห็นว่ามีน้ำออกมามากผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยง
4. เนื้อหมูสีซีดจาง ไม่มีความสดใหม่
เนื้อหมูสดจะมีสีชมพูสดหรือแดงเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว หากพบเนื้อหมูสีซีดซีดเกือบขาว และไม่มีกลิ่นเลย อาจถูกล้างด้วยน้ำบ่อยๆ หรือผ่านการใช้สารเคมีเพื่อปกปิดความไม่สด
ท้ายที่สุด อย่าลืมว่า การเลือกเนื้อหมูที่ดี เป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าอาหารปลอดภัย สดใหม่ และอร่อยขึ้น ดังนั้น ควรดูแลสุขภาพตัวเองและคนที่เรารัก ด้วยการเลือกเนื้อหมูอย่างชาญฉลาด เมื่อไปตลาดครั้งต่อไป หากครอบครัวของคุณชอบทานเนื้อหมูอะนะ
