กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Chaiyasit Phupharat โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หรือ ฮุก 31” กำลังช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด 19 จากโรงพยาบาลนำไปฌาปนกิจที่วัด
โดยระบุข้อความว่า ระวังกันนะครับ ติดกันเยอะ คนที่ไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ไม่เกี่ยงอายุนะครับ วันนี้มีตั้งแต่ไม่กี่ขวบ จนถึงสูงอายุ ทีมงานฮุก 31 บ้านหลังสุดท้าย ทุกๆ เขตรับผิดชอบ เริ่มมีภารกิจถี่ขึ้นครับ ต้นเดือน มิ.ย 68 มาถึงวันนี้ก็ 8 รายละครับ ระมัดระวังนะครับ กินช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆไปที่ชุมชนใส่หน้ากากครับ
ล่าสุดวันที่ 5 มิ.ย. 2568 นายชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 นครราชสีมา ผู้โพสต์ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการ บ้านหลังสุดท้าย หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ซึ่งเปิดเผยว่า ทางมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการโครงการ บ้านหลังสุดท้าย ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน โดยจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 ใส่ชุดพีพีอีนำรถตู้ไปรับศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่าปัจจุบันโรคติดเชื้อโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้วเหมือนไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
ซึ่งทำให้ประชาชนไม่ตระหนักถึงการป้องกันดูแลสุขภาพของตนเองเท่าที่ควร รวมทั้งการให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากโรคโควิด 19 ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว หรือสีเหลือง ก็ไม่เข้มข้นเท่าช่วงที่มีการระบาดหนักๆ ส่วนใหญ่จะซื้อยามาทานเอง หรือไปพบแพทย์วินิจฉัยตามอาการ แล้วให้ยามาทานกลับไปพักดูแลตนเองต่อที่บ้าน จึงทำให้เสี่ยงสูงที่จะแพร่เชื้อไปให้คนอื่นได้ง่าย เมื่อวานเป็นเด็กชายอายุ 6 ปี ป่วยเป็นมะเร็งและติดเชื้อด้วยนำร่างไปประชุมเพลิงที่วัดประคำ อ.พระทองคำ และชายสูงวัยที่วัดด่านเกวียน อ.โชคชัย
ซึ่งสถานการณ์ของโรคโควิด จ.นครราชสีมา ในปี 2568 มีผู้ป่วยโควิด19 เสียชีวิต เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มี 5-6 ราย และในเดือนมิถุนายนนี้ พบว่าตั้งแต่ต้นเดือน สถิติผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย และวันนี้มีอีก 2 ราย ที่ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 ในโครงการบ้านหลังสุดท้าย จะต้องนำไปฌาปนกิจยังวัดที่รับเผาเหยื่อเสียชีวิตจากโรคโควิด 19
โดยเฉพาะซึ่งมีเพียงไม่กี่วัดในจังหวัดที่รับเผา และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ มากสุดประมาณ 80 ปี และอายุต่ำสุด ก็ประมาณ 4-5 ขวบ ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงกันทั้งนั้น และผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะมีทั้งเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และบางส่วนเสียชีวิตที่บ้านหลังจากไปพบแพทย์แล้วกลับมาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน