เรียกได้ว่าหนึ่งในบุคคลสำคัญในการเจรจากับทหารกัมพูชา จนยอมปรับกำลัง ถอยออกจากแนวปะทะไปอยู่ด้านหลังศาลาตรีมุข และยอมกลบแนวคูเลต ก็คือ บิ๊กณัฏฐ์ พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2
ประวัติ พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์
พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 27 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 38 เป็นลูกชาวนา จ.สุรินทร์ สามารถพูดและฟังภาษาเขมร ได้เป็นอย่างดี นับแต่รับราชการตั้งแต่เป็นนายร้อยจนขยับเป็นนายพลก็อยู่ในพื้นอีสานใต้มาตลอด
อดีตเคยเป็น ผู้บัญชาการทหารพรานปักธงชัย อดีต ผบ.พล.ร.6 และอดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี
พล.ต.ณัฏฐ์ เคยผ่านสมรภูมิเขาพระวิหาร ช่วงปี 2551-2554 โดยเฉพาะยุทธการเขาสัตตะโสม ใกล้ผามออีแดงและเขาพระวิหาร รวมถึงเป็นผู้ประสานงานเจรจาหยุดยิง ในการปะทะเมื่อปี 54 และเป็นผู้ประสานนำกำลังเข้าจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา จนถูกขนานนามว่า เป็นนักรบที่เก่งกล้า เป็นนักพัฒนาที่เกรียงไกร
ปลายปี 2566 พล.ต.ณัฏฐ์ สมัยเป็น ผบ.พล.ร.6 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้ทำพิธีเปิดอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย รำลึกถึงวีรกรรมทหารกล้า 20 นาย ผู้เสียสละต่อสู้กับทหารกัมพูชาที่มีจำนวนมากกว่า ณ ฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น เขาสัตตะโสม อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
ล่าสุด โรงเรียนเตรียมทหาร มอบรางวัล เกียรติยศจักรดาว สาขาการทหาร ประจำปี 2568 เพื่อเชิดชูเกียรติ “พลตรี ณัฏฐ์” ที่ทุ่มเทเสียสละเพื่อประเทศชาติ
ทหารไม่สามารถเลือกสนามรบได้ แต่การชนะโดยที่ไม่ต้องรบล้ำเลิศกว่า
10 มิถุนายน 2568 พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 (รอง มทภ.2) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Mammoth S Nutt ระบุว่า…
ด้วยความเคารพ….
1. ขอขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ สื่อมวลชนทุกสำนักที่นำเสนอข่าวผมเป็นผู้เจรจาเป็นผลให้มีการปรับกำลังไม่มีการรุกล้ำอธิปไตยพื้นที่ช่องบก จนรู้สึกว่าออกสื่อมากเกินไป
2. งานนี้ผมทำเองไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากผู้บัญชาการทหารบก จากแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งผมต้องขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นที่ไว้วางใจให้ผมทำงานนี้
3. ผมติดตามสถานการณ์มาเป็นระยะ และเห็นว่าหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้จะนำไปสู่การปะทะ จะนำมาซึ่งการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ทหารไม่สามารถเลือกสนามรบได้ แต่การชนะโดยที่ไม่ต้องรบล้ำเลิศกว่า ซึ่งเมื่อผมได้รับการประสานเพื่อพูดคุยที่จะ “ไม่รบ” ผมจึงนำเรียน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง มทภ.2 ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผม ท่านเห็นด้วยและอนุญาตพร้อมมอบแนวทางการเจรจาให้ ซึ่งผมก็ได้นำแนวทางนั้นไปเจรจาจนบรรลุผล
4. ผมทำไปด้วยหน้าที่ จิตสำนึกของความเป็นทหารอาชีพ ไม่ได้หวังผลตอบแทน ผมกำเนิดจากลูกชาวนาเติบโตมามีโอกาสได้ทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองก็เป็นความภาคภูมิใจสูงสุด มิได้มีความทะเยอทะยานใดๆ
5. ขอให้คนไทยเราสามัคคี มัดรวมใจ ร่วมกันคิด ช่วยกันทำเพื่อดำรงความเป็นชาติไทยส่งต่อให้ลูกหลาน เมื่องานส่วนรวมสำเร็จก็เป็น ผลงาน ของทุกคน