หมอเป็นห่วง ผู้ป่วย 90% ไม่เคยรู้ตัวว่ากำลัง “ไตเสื่อม” จนเข้าสู่ระยะรุนแรง แนะวิธีเช็กสุขภาพไตง่ายๆ ด้วยขวดใบเดียว
ปัจจุบันมีประชากรเกือบ 850 ล้านคนทั่วโลก ที่ต้องเผชิญกับโรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease – CKD) คิดเป็นมากกว่า 10% ของประชากรโลก ข้อมูลนี้มาจากสมาคมแพทย์หนุ่มเวียดนาม โดยสิ่งที่น่ากังวลคือ มากกว่า 90% ของผู้ป่วยไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นโรคไต จนกระทั่งอาการเข้าสู่ระยะลุกลาม ทำให้เกิดภาระทั้งต่อตัวผู้ป่วย ครอบครัว และสังคมโดยรวม
โรคไตเรื้อรังมักถูกเปรียบว่าเป็น “ฆาตกรเงียบ” เนื่องจากอาการในระยะแรกไม่ชัดเจนและดำเนินไปอย่างช้า ๆ หากไม่มีการป้องกันหรือรักษาอย่างทันท่วงที คาดว่า CKD จะกลายเป็น สาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5 ของโลกภายในปี 2040
ล่าสุด ดร. Parwez Alam แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะในกรุงเดลี ประเทศอินเดีย ได้เสนอวิธีตรวจสอบสุขภาพไตแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ วิธีนี้อ้างอิงจากรายงานของ Hindustan Times
หลักการง่าย ๆ คือ การตรวจปริมาณปัสสาวะ
จากข้อมูลของ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ปริมาณปัสสาวะ (Urine Output – UO) เป็นตัวบ่งชี้สำคัญของการทำงานของไต และสามารถบอกถึงระดับน้ำในร่างกายของผู้ป่วยได้
โดยทั่วไป UO ปกติอยู่ที่ 0.5-1 มล. ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อชั่วโมง เช่น ผู้ชายที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม ควรมีปัสสาวะประมาณ 35-70 มล.ต่อชั่วโมง
ดร. Parwez ระบุว่า หากคนที่มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม มีปัสสาวะเฉลี่ยประมาณ 50 มล. ต่อชั่วโมง แสดงว่าไตยังทำงานได้ดี วิธีการนี้ช่วยประเมินสุขภาพไตได้เบื้องต้น
จะตรวจเองได้อย่างไร?
สูตรคำนวณปริมาณปัสสาวะ (Urine Output – UO)
ขั้นต่ำ = น้ำหนักตัว (kg)×ช่วงค่าปกติน้อยที่สุด (0.5)×จำนวนชั่วโมงที่วัด (ชม.)
ค่าปกติ = น้ำหนักตัว (kg)×ช่วงค่าปกติ (1)×จำนวนชั่วโมงที่วัด (ชม.)

ให้วัดปริมาณปัสสาวะสะสมอย่างน้อย 10 ชั่วโมง โดยใช้ขวดพลาสติกขนาด 1 ลิตรเก็บปัสสาวะ แล้วใช้สูตรคำนวณ ตัวอย่างเช่น หากคุณหนัก 50 กก. และมีปัสสาวะรวมประมาณ 250-500 มล. ใน 10 ชั่วโมง แสดงว่าไตยังทำงานได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม หากปริมาณปัสสาวะน้อยกว่า 0.5 มล./กก./ชม. เป็นเวลา 6-12 ชั่วโมง อาจหมายถึงไตเริ่มเสียหาย และยิ่งปริมาณปัสสาวะน้อยเท่าไหร่ ความรุนแรงของความเสียหายก็จะมากขึ้น ซึ่งหากตรวจพบแต่เนิ่น ๆ ก็อาจช่วยป้องกันไม่ให้โรคลุกลามได้
ในทางตรงกันข้าม หากปริมาณปัสสาวะ มากเกิน 3 ลิตรใน 24 ชั่วโมง อาจเป็นภาวะ “ปัสสาวะมากผิดปกติ” ซึ่งพบได้ในผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะ
ดังนั้น การเฝ้าระวังปริมาณปัสสาวะสามารถช่วยชี้แนะแนวโน้มของโรคบางชนิด และเป็นวิธีเบื้องต้นที่มีประโยชน์ในการประเมินสุขภาพไตด้วยตัวเอง