วันที่ 15 มิถุนายน 2568 – บรรยากาศที่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นวันที่ 9 ของมาตรการกดดันฝั่งกัมพูชา ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ไทยเปิดประตูด่านตามมาตรการปรับร่นเวลาเปิด-ปิด ทำให้มีประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาหลายร้อยคนมารอข้ามแดน แต่ติดค้างอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เนื่องจากฝั่งกัมพูชาเปิดด่านเวลา 09.00 น.
กระทั่งเวลา 08.55 น. ฝั่งกัมพูชาได้เปิดด่านก่อนเวลา หลังผู้ป่วยชาวไทยที่รอกลับประเทศเกิดวูบเป็นลมขณะยืนรอ ทำให้เจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปต ต้องรีบเปิดทางให้ผู้ป่วยเข้าประเทศโดยด่วน จากนั้นจึงเริ่มให้ชาวกัมพูชาเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามปกติ
ขณะเดียวกัน ชาวกัมพูชาที่จะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยกลับมีจำนวนน้อยลง สืบเนื่องจากข่าวลือที่แพร่ในฝั่งปอยเปต ว่าอาจมีการปิดด่านเพื่อตอบโต้ไทย ทำให้เกิดความไม่มั่นใจและหวาดกลัวต่อสถานการณ์ชายแดน แม้ในขณะนี้จะมีการประชุม JBC ระหว่างสองประเทศก็ตาม
ฝั่งไทยยังคงควบคุมเข้ม พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ยังคงสั่งให้ตั้งจุดสกัดตรวจเข้มบริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก เพื่อ ป้องกันนักพนันชาวไทยข้ามไปยังบ่อนฝั่งปอยเปต ตามมาตรการกดดันกัมพูชาอย่างเข้มงวด
ด้าน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ยืนยันว่า ทางการไทยไม่มีนโยบายเนรเทศแรงงานกัมพูชา แม้จะมีกระแสข่าวจากฝั่งกัมพูชาเรียกร้องให้แรงงานรีบกลับประเทศ โดยระบุว่า ได้เตรียมกำลังและความพร้อมไว้รองรับ หากมีแรงงานกัมพูชาทยอยเดินทางกลับจำนวนมากในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ชายแดน ณ เวลานี้ยังถือว่า “ปกติ” แม้จะเปราะบางจากแรงกดดันทางการเมืองและข่าวลือต่าง ๆ ที่แพร่สะพัดอยู่ในพื้นที่ทั้งสองฝั่งอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากมาตรการกดดันจากไทยยังคงดำเนินต่อ และทางกัมพูชาเลือกใช้มาตรการตอบโต้ โดยเฉพาะในบริบทของความสัมพันธ์ด้านแรงงานและเศรษฐกิจชายแดนที่เชื่อมโยงกันแน่นแฟ้นในแต่ละวัน