“แรมโบ้อีสาน” กร้าว ประกาศทวงคืนรทสช. ตะเพิด “พีระพันธุ์” พ้นหน.พรรค ซัดไม่สง่างาม ชี้ สส.บ่นอุบ เข้าถึงยาก-ทำพรรคตกต่ำ
เมื่อวันที่2 มิ.ย. จากกรณีที่มีกระแสข่าวความระหองระแหงภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ระหว่างนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และสส.บางกลุ่ม จนปรากฏภาพที่สส.พรรค นำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นัดกันรับประทานอาหาร เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ กทม.
ล่าสุดนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ประกาศทวงคืนพรรครทสช.โดยกล่าวว่า “ผมจะขอเอาพรรคคืน ขอไล่หัวหน้าออกไป ท่านไม่สง่างาม ขอให้คนอื่นที่เหมาะสมกว่านี้มาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะมีหลายเรื่องรวมถึงกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี ร้องต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ข้อมูลค่อนข้างน่าเชื่อถือ ก็ไม่เคยออกมาชี้แจงความจริง ในฐานะคนก่อตั้งพรรครทสช.เมื่อมาขอพรรคผมไปดูแล แต่ทำได้ไม่ดี มีแต่ความแตกแยกในพรรค สส.ในพรรคบ่นมาว่าไม่มีความอบอุ่นเลย มีแต่ความแตกแยก แตกความสามัคคี หัวหน้าพรรค เข้าถึงยากความคิดเป็นใหญ่ ไม่ค่อยสนใจเอาแต่พรรคพวกตัวเองและไม่ฟังความเห็นใคร ผมจึงจำเป็นต้องขอทวงพรรคคืน เพราะผมให้ยืมไปคิดว่าจะทำให้เติบโตมีแต่จะทำให้ตกต่ำลงกว่าเดิม สร้างความแตกแยกในพรรคตลอด ผมจึงจำเป็นต้องขอทวงคืน เพราะผมไม่ได้ขายพรรคให้เขานะครับท่าน” นายเสกสกล กล่าว
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มสส.ไปร่วมทานข้าวกัน โดยการนำของนายสุชาติ
ตนมีความรู้สึกไม่สบายใจและวิตกกังวล และมีสส.หลายท่านโทรมาคุยบอกว่ามีปัญหาในพรรค แตกร้าวสามัคคีกัน ซึ่งตนได้ถามว่าปัญหาเกิดจากอะไร ซึ่งเกิดจากหัวหน้าไม่สร้างความอบอุ่น มีแต่ความแตกแยก โดยเฉพาะเอาแต่คนของตัวเองเข้ามาทำงาน มีหลายประเด็นจากการที่ตนได้ติดตามข่าว และในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนายพีระพันธุ์ ได้ขอพรรคตนไปใช้ ซึ่งตนไม่ได้ขายโดยตอนนั้นที่ได้ก่อตั้งไว้รองรับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ขอเอ่ยชื่อท่าน แต่เมื่อเอาพรรคไปแล้ว กลับทำให้พรรคตกต่ำและแย่ลง ไม่มีความอบอุ่นไม่มีความสามัคคีมีแต่ความแตกแยกในพรรค
ดังนั้นตนในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค ขณะเดียวกัน อดีตหัวหน้าพรรคคนเก่า ก็มายื่นหนังสือขับไล่ ให้ นายพีระพันธุ์ ออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค รวมถึงเห็นเรื่องของนายสนธิญา ออกมาร้องเรียนหลายเรื่องในประเด็นที่หัวหน้าพรรค ที่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตนวิตกกังวลใจอย่างยิ่ง แล้วจะเกิดความเสื่อมเสียต่อพรรค ขณะที่หัวหน้าพรรคก็ถูกป.ป.ช.ตรวจสอบให้มาชี้แจง
ยิ่งล่าสุดการประชุม งบประมาณ แผ่นดิน ในสภาผู้แทนราษฎร แต่หัวหน้ากลับไปเซี่ยงไฮ้ ตนถือว่าการประชุม ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ 2569 เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องการดูแลคนทั้งประเทศทั้งแผ่นดิน แต่กลับไม่อยู่ชี้แจง จึงมีความรู้สึกว่า หัวหน้าเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ รวมถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีก็แอบไปเข้าหลังครัว หลบนักข่าวหัวหน้าไม่เคยออกมาชี้แจงสักเรื่องเลย ตั้งแต่มีกระแสข่าวว่ายังถือหุ้นยังเป็นกรรมการบริษัท ที่สำคัญเอาคนถือหุ้นในบริษัทไปเป็นบอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ถือว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ไม่บริสุทธิ์
โดยหลายๆเรื่องหัวหน้าไม่ออกมาชี้แจงหากออกมาชี้แจงคนจะได้เข้าใจ
ตนยิ่งเห็นสส.จะหนีจะย้ายออกจากพรรคยิ่งทุกข์ใจ เพราะเป็นผู้ก่อตั้งพรรค ยิ่งอดีตหัวหน้าพรรค คนเดิมออกมายื่นให้หัวหน้าออก และหาหัวหน้าใหม่ หากจะมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ตนไม่ติดขัดหรือขัดข้อง แต่ขอเป็นคนดีที่เสียสละ ไม่มีประวัติด่างพร้อยสามารถดูแล สส. ให้อบอุ่นไม่เกิดความแตกแยก
หากนายพีระพันธุ์ไม่สามารถที่จะบริหารต่อไปได้ ขอให้ลาออกและตนขอทวงพรรคคืน ซึ่งตนไม่ได้ขายพรรคให้ท่านแต่จะขอทวงคืน ให้คนที่มีความรู้ความสามารถ แล้วคนที่มีความตั้งใจที่จะสร้างพรรค ก่อนที่พรรคจะย่อยสลายหรือยุบไปโดยการบริหารของหัวหน้า ตนไม่อยากให้พรรคตกต่ำลง ดังนั้นขอเรียนหัวหน้า ขอทวงคืนพรรค ถ้าหัวหน้าไม่ให้คืนก็ลาออกไป ให้คนอื่นมาเป็นหัวหน้าแทน ขอฝากถึงหัวหน้าพีระพันธุ์ด้วย ตน ให้ความเคารพนะ แต่จำเป็นต้อง รักษาส่วนใหญ่ และพรรคเอาไว้ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองเพราะพรรคต้องเป็นสถาบัน ของประชาชนจริงๆ